TWPC ฉลุย!ผถห.เทคะแนนจ่ายปันผลปี64 อัตรา 0.2159 บ./หุ้นปักหมุดรุกขยายตลาดสหรัฐฯ-ยุโรปดันยอดขายทะลุ 1 หมื่นลบ.
ผู้ถือหุ้นบมจ. ไทยวา (TWPC) ยกมือโหวตขานรับปันผลงวดปี 64 จ่ายเป็นเงินสดในอัตรา 0.2159 บาทต่อหุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 3 พ.ค 65 และกำหนดรับเงินปันผลวันที่ 20 พ.ค.65 นี้ ฟากซีอีโอ “โฮเรน ฮวา” ประเมินภาพรวมธุรกิจปีนี้ยังเติบโตได้ดีตามความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์แป้งมันสำปะหลัง ขณะที่ราคาส่งออกมีแนวโน้มสดใส ปักธงรุกขยายตลาดส่งออกไปยังสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ Bioplastic ภายใต้แบรนด์ RosEco มั่นใจหนุนยอดขายปี 65 แตะ 1 หมื่นล้านบาท
นาย โฮ เรน ฮวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) (TWPC) ผู้ผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์แป้งมันสำปะหลัง และผู้นำตลาด โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์วุ้นเส้นและเส้นก๋วยเตี๋ยว เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2565 มีมติอนุมัติให้จ่ายปันผลประจำปี 2564 ในรูปของเงินสดในอัตราในอัตรา 0.2159 บาทต่อหุ้น คิดเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 190.08 ล้านบาท โดยกำหนดให้ผู้ถือหุ้นที่จะมีชื่อปรากฏ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 3 พฤษภาคม 2565 วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) คือ วันที่ 29 เมษายน 2565 และกำหนดวันจ่ายเงินปันผล ในวันที่ 20 พฤษภาคม 2565
"ผลประกอบการของบริษัทฯ ในปี 2564 ถือว่าแข็งแกร่งมาก อันเนื่องจากการปรับใช้นวัตกรรมเพื่อลดต้นทุนการผลิต การพัฒนาสินค้าเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม การบริหารการขายและการตลาดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงอุตสาหกรรมแป้งมันสำปะหลังและธุรกิจอาหารที่ยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง จึงช่วยสนับสนุนให้ผลการดำเนินงานเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้สามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้และคาดว่าบริษัทฯ จะสามารถจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่องในอีก 2 – 3 ปีข้างหน้า"นาย โฮ เรนฮวา กล่าว
สำหรับภาพรวมธุรกิจของบริษัทฯ ปีนี้ประเมินว่า ความต้องการในผลิตภัณฑ์แป้งมันสำปะหลังยังคงอยู่ในระดับสูงต่อ เนื่องจากการนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์อาหาร ขณะที่ราคาส่งออกแป้งมันสำปะหลังยังปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ ตามความต้องการใช้แป้งมันสำปะหลังของตลาดชั้นนำอย่างประเทศจีน ซึ่งบริษัทฯ ได้ขยายการส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ มากขึ้น เช่น สหรัฐฯ และสหภาพยุโรป ส่วนปริมาณหัวมันสำปะหลังในฤดูการผลิตในปี 2564/2565 คาดว่าจะมีปริมาณอยู่ที่ 33.0 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนเนื่องจากปริมาณน้ำฝนที่เอื้ออำนวยต่อการเจริญเติบโตของมันสำปะหลัง
นอกจากนี้ยังเริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจใหม่ คือ Bioplastic ภายใต้แบรนด์ “ROSECO” เป็นการนำแป้งมันสำปะหลังมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ เป็นบรรจุภัณฑ์แบบใช้ครั้งเดียวที่ย่อยสลายได้ พลาสติกคลุมดินที่ย่อยสลายได้ และผลิตภัณฑ์พลาสติกชีวภาพที่ย่อยสลายได้ภายใน 4-6 เดือน ซึ่งบริษัทฯถือเป็นผู้บุกเบิกพลาสติกชีวภาพจากแป้งมันสำปะหลังเชิงพาณิชย์รายแรกในประเทศไทย โดยตั้งเป้ากำลังการผลิตเฟสแรกไว้ระดับ 3,000 ตันต่อปี และคาดว่าธุรกิจนี้จะช่วยสร้างรายได้ 1,000 ล้านบาทในอีก 3-5 ปีข้างหน้า ทำให้บริษัทคาดการณ์ว่าภาพรวมผลการดำเนินงานปีนี้ จะสามารถเติบโตได้ Double digit หรือยอดขายแตะระดับ 1 หมื่นล้านบาทตามที่ตั้งเป้าไว้ได้